วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

15 สถานที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว

แม่ฮ่องสอน อยู่ทางภาคเหนือ เป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด ไม่ว่าจะฤดูไหนแม่ฮ่องสอนก็ยังคงความสวยงามของธรรมชาติไว้เสมอ มีสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพอากาศมีหมอกปกคลุมตลอดเวลา จนได้ฉายาว่า “เมืองหมอก 3 ฤดู” หรือ เมืองสามหมอก ไม่ว่าจะในฤดูหนาว ก็จะเจอกับหมอกน้ำค้าง, ฤดูร้อน หมอกควันจากการเผาไร่ของชาวบ้าน และฤดูฝน ก็จะพบกับ หมอกในสายฝน
อีกทั้งแม่ฮ่องสอน มีประชากรน้อยมากเป็นอันดับ 5 ในขณะที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 7 อำเภอ คือ แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า ตาม travel.mthai มาดูกัน กับ ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว ที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง

 1. สักการะ พระธาตุดอยกองมู

 สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันก่อนดีกว่า ณ พระธาตุดอยกองมู เดิมชื่อ วัดปลายดอน ตั้งอยู่ที่ดอยกองมู อำเภอเมือง ถือเป็นวัดและพระธาตุประจำจังหวัด และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาช้านาน
     พระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์ จากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้ สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ เมื่อถึงงานเทศกาลประจำปีใหญ่ๆ เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็จะมีผู้คนเข้ามากราบไหว้ เสริมดวงชะตากันเยอะมากๆ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์ ซึ่งเป็นประเพณีแต่โบราณ ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2559


 
 พระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์ จากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้ สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ เมื่อถึงงานเทศกาลประจำปีใหญ่ๆ เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็จะมีผู้คนเข้ามากราบไหว้ เสริมดวงชะตากันเยอะมากๆ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์ ซึ่งเป็นประเพณีแต่โบราณ ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2559

2. “สะพานอธิษฐานสำเร็จ” สะพานซูตองเป้

  สะพานไม้ไผ่ กว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ วัสดุที่ใช้หาได้ในท้องถิ่น เสาจากไม้เก่าของชาวบ้านปูพื้นด้วยไม้ไผ่ ทอดยาวจากสวนธรรมภูสมะถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก ผ่านลำน้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน เพื่อให้พระภิกษุสามเณรออกรับบิณฑบาต ถือเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา คำว่า “ซูตองเป้” (Su-Tong-Pe) นั้นเป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ สะพานแห่งนี้จึงเป็นเหมือนตัวแทนแห่งคำอธิษฐานสำเร็จ มีพระสงฆ์บิณฑบาตบนสะพานทุกเช้าเวลา 6.30  -7.30 น.
  
การเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1095 จากนั้นเราสามารถเดินทางเข้าสู่สะพาน ซูตองเป้ ได้สองเส้นทางดังนี้
1. เข้าทางแยกหมู่บ้านกุงไม้สัก เลี้ยงซ้านทางไปภูโคลนประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงแยกเข้าหมู่บ้านให้ลอดซุ้มประตู เข้าไปทางขวามือตามถนนในหมู่บ้าน โดยสามารถจอดรถไว้ที่วัดกุงไม้สักได้
2. เข้าทางแยกสวนธรรมภูสมะ เลี้ยวซ้ายจากปากทาง ผ่านถนนลูกรังระยะทางประมาณ 1กิโลเมตร จอดรถที่สวนธรรมภูสมะได้


3.  ชม ทุ่งบัวตองเหลืออร่าม ดอยแม่อูคอ
  
ชมความตระการตาแห่งสีสันพรรณไม้ ณ ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เพราะ ดอกบัวตอง จะบานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครอยากเห็นกับตาต้องจัดสรรเวลาไปให้เหมาะ!
จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมความสวยของ ทุ่งบัวตอง คือ บริเวณยอดดอยซึ่งมีความสูง 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือ กางเต็นท์ค้างแรมบนยอดดอย ถ้าโชคดีอาจได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชนท้องถิ่นที่มาเสริมสร้างให้บรรยากาศสนุกสนานเป็นพิเศษ

การเดินทาง : ใช้เส้นทาง อำเภอขุนยวม ตามเส้นทางหมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน – ขุนยวม) ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายตามทางหลวงสาย 1263 เข้าสู่ทุ่งบัวตองอีก 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1 พันไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ
 
 4. ภูชี้เพ้อ ถ้าไม่ได้ไป คงต้องเพ้อ …

 ภูชี้เพ้อ ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อ.ขุนยวม ใกล้กับทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1,818 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภูชี้เพ้อ ถือเป็นจุดวิวแห่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก
 เป็นจุดชมวิวสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น และสายหมอกที่แผ่กระจายไปทั่วทิวเขาที่สลับซับซ้อน เป็นภาพที่งดงามสุดจะบรรยาย หากมาในช่วงที่ดอกบัวตองบาน ท่านสามารถมองเห็นวิวของทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอในอีกมุมหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร


 5. จุดชมทะเลหมอกสุดประทับใจ ณ ม่อนหยุนไหล

 ม่อนหยุนไหล จุดชมวิวบนภูเขาสูง โดดเด่นด้วยชื่อสไตล์จีน ตั้งอยู่ในอำเภอปาย เลยหมู่บ้านสันติชลไปประมาณ 3 กิโลเมตร บนจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล สามารถมองเห็นตัวเมืองปาย และสายหมอกที่รวมตัวกันเป็นก้อนไหลเหมือนดังสายน้ำท่ามกลางหุบเขาในอำเภอปาย ได้อย่างงดงาม
 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางขึ้นไปจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ประมาณ 05.30 น. เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า และรอชมแสงแรกแย้มจากดวงอาทิตย์ อันอบอุ่นในยามเช้า ณ บนจุดชมวิวที่สูงตระหง่านในอำเภอปาย ด้านบนจุดชมวิวมีบ่อน้ำสำหรับใช้ในการบริโภคที่ไหลลงสู่ด้านล่างของภูเขา
ม่อนหยุนไหล มีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ห้องพัก ลานกางเต๊นท์ ห้องน้ำ และร้านค้า คอยบริการนักท่องเที่ยว
ค่าบริการเข้าชม ท่านละ 20 บาท
การเดินทาง : การเดินทาง ต้องติดต่อรถนำเที่ยวที่หมู่บ้านสันติชล เนื่องจากทางขึ้นเป็นทางลูกรัง และเป็นเขาลาดชัน ถ้าเหมาต่อคันอยู่ที่ราคาคันละ 300 บาท นั่งได้ 10 คน


 6. ปางอุ๋ง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”

  ลุย 2000โค้ง มาสัมผัสหมอกและไอหนาว ในดินแดนแสนโรแมนติค
 ปางอุ๋ง มีชื่อเต็ม ว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร เป็นหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวช่วงฤดูหนาว ถูกขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย
  ปางอุ๋ง มีลักษณะเป็น อ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่บนยอดเขาสูง เป็นที่เที่ยวสุดโรแมนติกอันดับต้นๆ ของแม่ฮ่องสอน ภาพแสงอาทิตย์สาดสะท้อนน่านน้ำ ผสานไอหมอกจางๆ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนทุกครั้ง มีกิจกรรมยอดฮิต คือ การล่องแพ ชมทัศนียภาพซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยป่าสน สวนดอกไม้ และกล้ชิดสายหมอก

 7. ลีไวน์รักไทย รีสอร์ทสไตล์จีนยูนาน

 ตะลุยฝ่าโค้งพันศอก! เพื่อมาชมความงามของที่นี่ อีกหนึ่งที่พักบรรยากาศสุดยอด ที่เราอยากแนะนำ ลีไวน์รักไทย รีสอร์ทสไตล์จีนยูนาน ที่ถูกเนรมิตรขึ้นกลางไร่ชา ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขา รับรองว่าจะทำให้คุณประทับใจจนแทบไม่อยากกลับบ้าน
ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท จำลองมาจากหมู่บ้านในมณฑลยูนาน ประเทศจีน หากคุณมาถึง อาจลืมไปว่านี่คือประเทศไทย เพราะมันเหมือนถอดแบบมาจากประเทศจีนจริงๆ อากาศก็แสนบริสุทธิ์ ยิ่งอยู่ท่ามกลางไร่ชาด้วยแล้ว ทำให้ดูอินขึ้นไปอีก แถมยังให้เราลองเก็บชาได้อีกด้วย แค่นึกภาพก็ฟินแล้ว แต่ก็สู้ไปสัมผัสของจริงไม่ได้แน่ๆ
   วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่ฮ่องสอน-ปาย) ประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงแยกบ้านกุงไม้สัก ทางซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางไปบ้านรักไทย ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับไปตามทางอีกประมาณ 36กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะผ่านภูโคลน น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ตลอดเส้นทางเป็นทางชันขึ้นเขา มีโค้งหักศอกคดเคี้ยวหลายแห่ง ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เมื่อมาถึงบ้านรักไทยแล้ว จะเห็น ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท อยู่ทางซ้ายมือ

 8. ดอยเมี่ยง สวรรค์เมืองหมอก

 สวรรค์เมืองหมอก ปักหมุดอยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร ในพื้นที่ป่าดิบชื้นและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพญาเสือโคร่ง ต้นมะค่า ความสุขโดยสัมผัส คือการไปยืน ณ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์ของเมืองปายได้อย่างสวยงาม แบบสุดสายตา 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดโชยสบายทุกฤดูกาล
 นจุดที่สูงสุดบนดอยเมี่ยงแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะเห็นมีหมอกหนาขึ้นบนดอย มีลักษณะเหมือนแอ่งกระทะ หรือทะเลหมอกให้ได้ชมในทุกช่วงฤดูเลยทีเดียว อีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจไม่ควรพลาด ต้องตื่นมาละเลียดภาพอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โดยมีสายหมอกอ่อนละมุนมารอรับแสงแรกของวัน ที่จะทำให้บรรยากาศแปรเปลี่ยน กลายเป็นวินาทีแห่งความโรแมนติก

 9. เที่ยว ถนนคนเดินปาย

จากแผงเล็กๆ ไม่กี่แผงของชาวบ้าน ขายสินค้าที่ระลึก และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองโดยอาศัยไฟโคมริมถนน หรือแสงเทียนสลัวเรียงรายสองข้างทางยามค่ำคืน คือ บทเริ่มต้นของถนนคนเดินปายซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นเส้นทางเดินคึกคักมากสีสันที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ
ช่วยต่อเติมบรรยากาศสบายๆ ให้กับเมืองเล็กแห่งนี้ ทุกวันประมาณ 6 โมงเย็น ผู้คนเริ่มเดินคึกคัก มีกิจกรรมการแสดงเปิดหมวกต่างๆ สินค้าส่วนใหญ่ที่วางขายมักเป็นของที่ระลึกไอเดียเก๋ๆ ทั้งโปสการ์ด เสื้อยืดสกรีนรูปต่างๆ สินค้าหัตถกรรม ผ้าพันคอทอมือ ฯลฯ สลับกับอาหารหลากหลาย หากเดินเหนื่อยก็มีร้านชากาแฟตกแต่งสวยๆ ให้นั่งพัก บางร้านมีดนตรีหลากสไตล์ขับกล่อมอีกด้วย

  10. ถ้ำลอดปางมะผ้า

 ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้ โบราณในถ้ำสันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว
   ถ้ำลอดเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด การเข้าชมถ้ำจาก ด่านด้านหน้าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง โพรงแห่งนี้มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สายน้ำกัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มากกว่าล้านปี ก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ๆถึง 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน


 11. หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า

 หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รถยนต์สามารถเข้าถึงจึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวชม กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่เป็นจำนวนมาก อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามา อยู่ที่แม่ฮ่องสอนนานแล้ว ดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ภายในหมู่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิต และถ่ายรูปกับ กะเหรี่ยงคอยาวได้
   หากมาในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ยังจะได้พูดคุยและถ่ายรูปกับเด็ก ๆ ชาวกระเหรี่ยงซึ่งแต่ ละคนหน้าตาน่ารักและช่างเจรจา ซึ่งวันธรรมดาเด็ก ๆ พวกนี้จะไปโรงเรียน นอกจากนี้บ้านแต่ละ หลังจะมีการนำ ของที่ระลึกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างรายได้ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เล็ก ๆ น้อยราคาไม่แพงมาก


 12. สะพานประวัติศาสตร์ปาย

 
สะพานประวัติศาสตร์เปรียบเสมือนประตูสู่อำเภอปาย สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย กองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า หลังจาก สงครามโลกครั้ง ที่ 2 ยุติลง อำเภอปายจึงกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง โดยหลงเหลือไว้เพียงแต่สะพาน แห่งนี้ว่า“สะพานประวัติศาสตร์”
กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ ของเมืองไทย จึงทำให้มีทักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามาก และด้วยตัว สะพานประวัติศาสตร์ปายแห่งนี้ก็เก่าแก่มากมิอาจรับน้ำหนักของรถที่วิ่งผ่านได้ไหว จึงทำให้สะพานคอนกรีตเกิด ขึ้นเพื่อใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแม้ในปัจจุบันจะมีสะพานปูนแบบไม่สร้างอยู่เคียงข้าง แต่สะพานประวัติศาสตร์ เก่าแก่แห่งนี้ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มา เยือนอำเภอปายอยู่เป็นประจำ

 13. กองแลน (ปายแคนย่อน)

 กองแลน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตอำเภอปาย มีลักษณะเป็นภูเขาดินแดงในป่าเต็งรังสลับป่าสน เมื่อคุณเดินขึ้นไปถึงด้านบนยอดจะพบหน้าผาสูงชันถูกกัดเซาะคล้ายปรากฏการณ์ดินทรุดตัว หรือแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์อำเภอปาย แต่นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการเดินชมด้วย เวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมคือช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะอากาศจะเย็นสบายกว่าช่วงกลางวัน

 14. ทุ่งปอเทือง เหลืองอร่าม ณ ปาย

หนาวนี้อย่าลืมแสะมาชมความงามของ ทุ่งปอเทือง บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ โดย ชาวบ้านได้ปลูกหว่านต้นปอเทือง หลังจากสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยวพืชถั่วและข้าวไร่ เพื่อให้เป็นปุ๋ยสดบำรุงดิน โดยได้นำแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
นอกจากจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจมาชมทุ่งดอกปอเทือง ที่ออกดอกสีเหลืองสดบานสะพรั่ง สวยงามแล้ว ยังเป็นการสร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยวของอำเภอปายอีกทางหนึ่งด้วย หนาวนี้ใครมาเที่ยวปาย ก็อย่าลืมแวะไปชมทุ่งดอกปอเทืองกันด้วยนะ

 15. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
 
อยู่ในเขตอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน (คลอบคลุมถึง อ.แม่แตง และ อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่)  ประกอบด้วยเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสีเขียว หน้าหนาวดอกกล้วยไม้เอื้องเงิน ที่ขึ้นตามธรรมชาติออกดอกบานต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และมีดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย บานแซมอยู่เป็นระยะ ๆ ทำให้ดอยแห่งนี้แต่งแต้มไปด้วยสีเขียว แซมด้วยสีชมพูของดอกซากุระเมืองไทย น่าชมไม่น้อยทีเดียว
  
เดินทางสู่จุดชมวิว ดอยกิ่วลม จุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในยามเช้าตรู่ จนถึงสาย ๆ มองไปเบื้องล่าง เห็นทะเลหมอกสีขาวไกลสุดลูกหูลูกตา สลับกับทิวสนสูงลิ่ว สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ยามเช้าพร้อมถ่ายรูปทะเลหมอกเก็บไว้เป็นที่ระลึก
นอกจากนี้บริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลม ยังมีพระตำหนักเอื้องเงินที่ทางอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังสร้างขึ้นเพื่อถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ดยรอบพระตำหนักมีดอกไม้เมืองหนาวออกดอกบานสะพรั่งในช่วงหน้าหนาวของทุกปี




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น