ชวนไปรับความสดชื่นในหน้าฝน ยลที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและเทศกาลประเพณีที่น่าสนใจ วางแผนหาที่เที่ยวไทยสวย ๆ ในเดือนกรกฎาคม ต้องมาดูที่เที่ยวเหล่านี้กัน
ช่วงเดือนกรกฎาคม ยังถือว่าอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่นิยมไปเที่ยวป่าเที่ยวไพร หรือเดินทางไปไหนมาไหนกันมากนัก บางคนกลัวความเฉอะแฉะ บางคนก็จะเก็บเงินไว้เที่ยวทีเดียวหน้าหนาว และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การที่ไม่ได้ออกมาเที่ยวในช่วงนี้ ก็อาจจะทำให้เราพลาดอะไรดี ๆ ไปหลายสิ่งเลยล่ะ อย่างป่าเขาเองก็เป็นช่วงที่มีความเขียวขจีมากที่สุด อากาศเย็นสบาย บางพื้นที่มีดอกไม้ป่าให้ชมกันแบบตระการตา หรือแม้แต่จะเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ก็ล้วนแต่หาดูยากทั้งสิ้น วันนี้เราจะมายั่วน้ำลายกันหน่อยค่ะ ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเดือนกรกฎาคมสวย ๆ บอกเลยว่าแต่ละที่จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันเลยทีเดียว
ช่วงเดือนกรกฎาคม ยังถือว่าอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่นิยมไปเที่ยวป่าเที่ยวไพร หรือเดินทางไปไหนมาไหนกันมากนัก บางคนกลัวความเฉอะแฉะ บางคนก็จะเก็บเงินไว้เที่ยวทีเดียวหน้าหนาว และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การที่ไม่ได้ออกมาเที่ยวในช่วงนี้ ก็อาจจะทำให้เราพลาดอะไรดี ๆ ไปหลายสิ่งเลยล่ะ อย่างป่าเขาเองก็เป็นช่วงที่มีความเขียวขจีมากที่สุด อากาศเย็นสบาย บางพื้นที่มีดอกไม้ป่าให้ชมกันแบบตระการตา หรือแม้แต่จะเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ก็ล้วนแต่หาดูยากทั้งสิ้น วันนี้เราจะมายั่วน้ำลายกันหน่อยค่ะ ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเดือนกรกฎาคมสวย ๆ บอกเลยว่าแต่ละที่จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันเลยทีเดียว
1. ทุ่งดอกเปราะภูสีขาว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดเลย
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ภายในอุทยานมีที่เที่ยวให้ได้ไปเยือนมากมาย อาทิ ภูแผงม้า,
น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร, ลานหินปุ่ม, ลานหินแตก, น้ำตกหมันแดง, กังหันน้ำ,
ผาชูธง, โรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหน้าฝน
ก็คือ ทุ่งดอกเปราะภูสีขาว ที่จะออกดอกสีขาวบานสะพรั่งบริเวณลานหินปุ่ม
และบริเวณผาชูธง ซึ่งจะบานมากที่สุดในช่วงเดือนกรกรฎาคมของทุกปี
สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงามสุด ๆ
2. เทศกาลล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
2. เทศกาลล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
กิจกรรมล่องแก่ง
เป็นกิจกรรมที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานมากที่สุดในช่วงหน้าฝน
ซึ่งมีหลายแห่งในประเทศไทยที่สามารถไปล่องแก่งกันได้
แต่สถานที่ที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนักก็คือ แก่งหินเพิง
จังหวัดปราจีนบุรี ที่จะมีระดับความยากของการล่องแก่งอยู่ที่ 3-5
เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย และอยากสนุกสนานกับสายน้ำ
ไม่เพียงเท่านั้นจังหวัดปราจีนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ
ให้ได้ไปเที่ยวชมอีกมากมายอีกด้วย อาทิ ดาษดาแกลเลอรี่, เขาทุ่ง, The
Verona at Tublan, พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร, อุทยานแห่งชาติทับลาน,
น้ำตกเขาอีโต้, โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ, อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ เป็นต้น
3. นาข้าวขั้นบันได แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
3. นาข้าวขั้นบันได แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันได แม่แจ่ม
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการเที่ยวหน้าฝน
เพราะนาข้าวทั้งผืนที่ตั้งอยู่ลดหลั่นกันลงไปตามแนวชายเขาจะเป็นสีเขียวขจีสดใส
อากาศเย็นสดชื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก
เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนนอนโฮมสเตย์ริมท้องนา
ยามค่ำคืนนอนมองดาวนับล้านดวง แล้วค่อยตื่นมาจิบกาแฟ นั่งชมหมอกบาง ๆ
ที่ลอยละล่องอยู่เหนือนาข้าว
เป็นประบการณ์ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมเลยล่ะ
4. งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี
ภาพจาก Ford Contributor / Shutterstock
งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี
ถือได้ว่าเป็นงานที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจ
เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะได้ชมประติมากรรมเทียนแกะสลักอันสวยงามวิจิตรบรรจง
อีกทั้งยังมีขบวนแห่เทียนที่สวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา
พร้อมกับกิจกรรมออกร้านของชุมชน
ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นได้ในราคาย่อมเยา โดยในปี 2560
จะมีการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ในวันที่ 1-9 กรกฎาคม ณ
บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ภาพจาก patchiya wasitworapol / Shutterstock
ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา
เป็นประเพณีที่มีการจัดงานทั่วเมืองไทย
ซึ่งแต่ละที่ก็จะจัดแตกต่างกันออกไปตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่น
แต่ที่โดดเด่นและน่าไปเที่ยวชมมาก ๆ ก็คือ งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ
คลองลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านจะนำเทียนขึ้นเรือ
แล้วประดับประดาด้วยดอกไม้และของตกแต่งต่าง ๆ อย่างสวยงาม
จากนั้นจะพากันพายเรือนำเทียนไปถวายที่วัดลาดชะโด
ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดลาดชะโด ในปี 2560 จะมีการจัดงานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ
คลองลาดชะโด ในวันที่ 8 กรกฎาคม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด
ใครว่าหน้าฝนเที่ยวทะเลไทยไม่ได้
ถึงแม้ว่าทะเลทางฝั่งตะวันออก และทะเลทางฝั่งอันดามันจะเป็นช่วงมรสุม
แต่ทางฝั่งทะเลอ่าวไทยในช่วงเกาะเต่า-เกาะนางยวน รวมไปถึงเกาะสมุย
หมู่เกาะอ่างทอง และทะเลทางฝั่งจังหวัดชุมพร
กลับเป็นช่วงที่ไม่มีลมมรสุมและน่าท่องเที่ยวมาก ๆ
น้ำทะเลเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส อากาศกำลังเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ
เหมาะแก่การไปดำน้ำชมปะการังและเล่นน้ำทะเลแบบเบา ๆ จะไปคนเดียว ไปเป็นคู่
หรือไปเป็นแก๊ง
ก็สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของเกาะเต่า-เกาะนางยวนได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
7. ปั่นจักรยานชิล ๆ เลียบริมโขง จังหวัดนครพนม
7. ปั่นจักรยานชิล ๆ เลียบริมโขง จังหวัดนครพนม
จังหวัดนครพนม
เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคอีสานที่เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนมาก ๆ
เพราะยังมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวไม่เยอะเท่าไร
และชาวบ้านในพื้นที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมไว้
จึงทำให้บรรยากาศในเมืองนครพนมน่าเที่ยวน่าอยู่อาศัย
โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโขง
ที่มีการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นเส้นทางปั่นจักรยานและออกกำลังสุดชิล
มีระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่น
ๆ ของนครพนมให้แวะพักเที่ยวชมอีกด้วย อาทิ พญาศรีสัตตนาคราช,
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์, พระธาตุนคร, วัดนักบุญอันนา,
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นต้น
8. เกาะกุลา เกาะลังกาจิว และหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร
หน้าฝนก็เที่ยวทะเลได้
เพราะทะเลทางฝั่งอ่าวไทย จะไม่มีมรสุม
ซึ่งจะสามารถเที่ยวได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคมเลยทีเดียว
แหล่งท่องเที่ยวทะเลอีกหนึ่งแห่งทางฝั่งทะเลอ่าวไทยที่อยากจะแนะนำก็คือ
ท้องทะเลในหมู่เกาะชุมพร ซึ่งยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและใต้น้ำ
มีแนวปะการังสวย ๆ ให้ไปแหวกว่ายชมมากมาย หรือจะเป็นหาดทรายขาวสะอาด
บรรยากาศเงียบสงบ ก็มีให้เลือกพักผ่อนกันแบบชิล ๆ โดยเฉพาะเกาะกุลา
และเกาะลังกาจิว ที่มีธรรมชาติสวยโดดเด่น เกาะกุลามีที่พักบนเกาะ
สามารถไปนอนพักค้างคืนได้
9. น้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
9. น้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
น้ำตกคลองลาน ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีความสูงประมาณ 100 เมตร กว้าง 40 เมตร น้ำจะไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณโดยรอบน้ำตกจะมีต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ อากาศเย็นสบายมาก เหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อน ปิกนิกกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว
10. น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก
น้ำตกทีลอซู เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองไทย มีความสูงประมาณ 300 เมตร กว้าง 500 เมตร เป็นน้ำตกที่อยู่กลางหุบเขา ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยป่าไม้เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ ช่วงท่องเที่ยวที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เพราะมีปริมาณน้ำเยอะ ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกทีลอซูอย่างชัดเจน วิธีการเข้าไปยังน้ำตก ก็ไม่ได้ง่ายดายนัก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน จะต้องเข้าไปโดยทางเรือและเดินเท้าเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 0 5550 8780, 08 8427 5272
หูย...มีแต่สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ นี่แหละความสวยงามที่สายฝนแอบซ่อนเราไว้ ใครอยากไปพักผ่อนในช่วงเดือนกรกฎาคม ก็ตามรอยที่เที่ยวเหล่านี้ไปเที่ยวกันได้เลย :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น