พบกับเรื่องราวหลากหลาย..ทั้งเพลง หนังคุณภาพ ความรู้ ข่าว ได้ในที่นี่ที่เดียว..
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
Dizzy - Tommy Roe
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
‘Omega Speedmaster’ กว่าจะเป็นนาฬิกาของนักบินอวกาศ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จะโฆษณาสินค้าอะไรนะครับ แค่อยากจะแสดงให้เห็นว่าแค่นาฬิกาเรือนเดียวยังต้องทดสอบกันจริงจังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นตัวจรวด ตัวยานอวกาศเขาจะต้องทดสอบกันจริงจังขนาดไหนครับ
เลยขอชวนทุกท่านคิดเล่นๆ ดูว่าถ้าเราจะส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ภายใน 7 ปี ตอนนี้เราควรจะเริ่มตรงไหนก่อนดีครับ ???
ท่านประธานาธิบดีไบเดน เป็นคนชอบนาฬิกา และมีนาฬิกาที่ใส่ติดข้อมือเป็นประจำซึ่งอยู่เรือนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ใช่ Made in USA แต่ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่คนอเมริกันรับได้และผูกพัน นั่นก็คือ Omega รุ่น Speedmaster
- Omega กับ สหรัฐอเมริกา
สาเหตุที่คนอเมริกันรู้จัก Omega อย่างเป็นทางการน่าจะเพราะว่า ในช่วงต้นทศวรรษ 60 เป็นต้นมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ได้คัดเลือกนาฬิกายี่ห้อนี้เป็นนาฬิกาประจำตัวของนักบินในโครงการสำรวจอวกาศทั้งหมดของ NASA และต่อมาในปี 1969 นาฬิกา Omega ก็ดังระเบิดพร้อมๆ กันกับความสำเร็จของ NASA ในภารกิจ Apollo 11 ที่สามารถนำนักบินอวกาศลงไปเหยียบพื้นผิวของดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรกและ Omega ก็เป็นนาฬิกาข้อมือที่นักบินอวกาศใส่ลงไปสร้างประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติครั้งนั้น
และ Omega รุ่นที่นักบินอวกาศใช้ก็คือรุ่น Speedmaster รุ่นเดียวกับที่ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ใส่ติดข้อมือนั่นเอง จากความสำเร็จดังกล่าว Omega ก็เพิ่มสโลแกนประจำยี่ห้อและเพิ่มคำสลักลงบนนาฬิการุ่น Speedmaster ว่า “The first watch worn on the Moon” เป็นจุดขายจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเราจะเห็นว่าในโฆษณาของนาฬิกายี่ห้อนี้มักจะมีภาพนักบินอวกาศ หรือยานอวกาศของสหรัฐปรากฎอยู่ด้วยกันจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจคู่กับชาวอเมริกันไปแล้ว
- บททดสอบสุดโหดก่อนท่องอวกาศ
การสรรหานาฬิกาสำหรับนักบินอวกาศนั้น NASA มีมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างดุดันเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะต้องเผชิญในระหว่างการเดินทางไปดวงจันทร์ ทั้งหมดมีด้วยกัน 11 ข้อ แบบดุดัน ซึ่งจะขออนุญาตสรุปพอให้ได้อรรถรสนะครับ ท่านใดที่สนใจแบบละเอียดรบกวนต้องไปอ่านในคู่มือของ NASA อีกทีนะ จริงๆ น่าสนใจแต่ต้องมีความรู้เรื่องมาตรฐานแรงกดอากาศและสูตรคำนวณต่างๆ แบบลึกจริงๆ เอาเป็นว่าผมขอสรุปพอสังเขปตามนี้ครับ
- ทดสอบในอุณหภูมิสูง :นาฬิกาจะต้องผ่านอุณหภูมิที่สูงระดับ 70 °C ติดต่อกันเป็นเวลา 48 ชั่วโมงจากนั้นจะเพิ่มอุณหภูมิเป็น 93 °C อีก 30 นาที ภายใต้แรงดัน 5.5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และความชื้นไม่เกิน 15% (อุณหภูมิเฉลี่ยบ้านเรานี่ปกติจะประมาณ 18-38 องศา °C และที่สหรัฐฯ จะประมาณ -8 – 34 °C นะครับ)
- ทดสอบในอุณหภูมิต่ำ : นาฬิกาจะต้องผ่านอุณหภูมิ -18 °C เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- การทดสอบอุณหภูมิร่วมกับความกดและแรงดันอากาศ : นาฬิกาจะถูกพาไปในหอควบคุมความกดอากาศ คงสภาพในความกดอากาศสูงสุดที่ใกล้เคียงสภาพนอกชั้นบรรยากาศของโลก เพิ่มอุณหภูมิไปที่ 71 °C เป็นเวลา 45 นาทีก่อนที่จะกระชากอุณหภูมิลงมาที่ -18 °C เป็นเวลาอีก 45 นาที ทำกลับไปกลับมาแบบนี้ 15 รอบ
- ทดสอบในสภาพอุณหภูมิที่ปรวนแปร : นำนาฬิกาไปอยู่ในหออุณหภูมิที่ปรับให้สวิงไปมาระหว่าง 20 °C กับ 70 °C ในความชื้นและแรงดันอากาศตามมาตรฐาน NASA เป็นเวลา 240 ชั่วโมง
- ทดสอบบรรยากาศออกซิเจน : นาฬิกาต้องอยู่ในระดับออกซิเจน 100 % ที่แรงกด 5.5 ปอนด์ต่อตารางนิ้วเป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยที่ทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาจะไม่เสื่อมสลาย ไม่ไหม้ไฟ ไม่เป็นสารพิษ ส่งกลิ่นเหม็น
- ทดสอบความทนแรงกระชาก : NASA จะจับนาฬิกาใส่ลงในเครื่องทดสอบแรง Shock ในระดับ 40 Gs และพาเคลื่อนไปทุกทิศทุกทางในทุกๆ 11 มิลลิวินาที
ในวันที่ 1 มีนาคม 1965 การทดสอบทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ ‘Omega Speedmaster’- ผ่านการทดสอบเพียงเจ้าเดียวแล้วได้เป็นนาฬิกาของนักบินอวกาศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในความเป็นจริงการทดสอบทั้งหมดไม่ได้ตั้งใจจะให้มีนาฬิกาแบบไหนที่จะผ่านออกมาในสภาพสวยหรู แต่เป็นการทดสอบว่าวัสดุและการประกอบของนาฬิกายี่ห้อไหนจะเสียหายน้อยที่สุดและยังคงเหลือสภาพใช้งานได้ในภารกิจท่องอวกาศ ตามรายงานของ NASA ระบุว่า Speedmaster สูญเสียความแม่นยำเล็กน้อยในห้วงสุญญากาศ และพรายน้ำมีรอยไหม้เมื่อเจอความร้อนสูง แต่ยังอยู่ในสภาพที่ไม่เกิดความเสียหาย
- ทดสอบความทนทานต่ออัตราเร่ง : อันนี้นาฬิกาจะถูกกระชากขึ้นตามแนวดิ่งจากอัตราเร่ง 1 G ถึง 7.25 G ภายในเวลา 333 วินาที
- ทดสอบการบีบอัดในระบบสูญญากาศ : นาฬิกาจะต้องใช้เวลา 90 นาทีในอุณหภูมิ 71 C และอีก 30 นาทีในอุณหภูมิ 93 C พร้อมกำลังอัดเสมือนในอวกาศ
- การอดทนต่อแรงดัน : นาฬิกาจะต้องเจอแรงอัดที่ 23.5 ปอนด์ต่อหนึ่งตารางนิ้ว เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง
- ทดสอบแรงสั่นสะเทือน : จับนาฬิกาเข้าระบบเขย่าตั้งแต่แรงสั่นสะเทือน 5- 2000 cps สลับไปมาทุกๆ 5 นาที เป็นเวลา 30 นาที และทำต่อเนื่องกัน 3 รอบ ในค่าแรง G ไม่น้อยกว่า 8.8
- ทดสอบความคงทนต่อเสียง : ทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้วนะครับว่าคลื่นเสียงมีอานุภาพที่ร้ายแรง ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจ NASA จะต้องนำนาฬิกาไปทดสอบกับเสียงในระดับ 130 เดซิเบล ในคลื่นความถี่ระหว่าง 40 – 10,000 Hz เป็นเวลา 30 นาที
Bridge over troubled water- Simon & Garfunkel
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
รางวัลแด่คนช่างฝัน
ถ้าอ้ายจรัลยังอยู่ ปีนี้ อ้ายก็จะมีอายุครบ 70 ปี.. สายของวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2544 ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วสังคมไทย จรัล มโนเพ็ชร ได้จากโลกไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืด จรัลเป็นศิลปินชาวเชียงใหม่ที่ร้องเพลงโฟล์กซองคำเมืองจนโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก ทั้งมีผลงานละครและเล่นหนังหลายเรื่อง เป็นศิลปินที่มากความสามารถ
เขาจากไปในวัยเพียง 50 ปี
ซูเปอร์หนองใน ที่กำลังมีคนป่วยเพิ่มขึ้น เพราะคนกินยาปฏิชีวนะ ?
โควิด-19 กับ ซูเปอร์หนองใน
สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ก่อให้เกิดการระบาดของอีกโรคที่มีความรุนแรงเช่นกัน นั่นคือโรคซูเปอร์โกโนเรีย (Super Gonorrhea) หรือซูเปอร์หนองใน ซึ่งเป็นหนองในชนิดรุนแรง อันตรายและดื้อยามากกว่าเดิม แข็งแรงมากราวกับซูเปอร์แมน
ซูเปอร์หนองในที่กำลังมีคนป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 นี้ดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษา
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนว่า สาเหตุที่มีคนเป็นซูเปอร์หนองในเพิ่มมากขึ้นในช่วงโควิด-19 เพราะคนกินยาปฏิชีวนะกันเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ทำให้แบคทีเรียหนองในดื้อยา และกลายเป็นซูเปอร์หนองใน
ยาปฏิชีวนะ อะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ได้รับการนำมาใช้ในผู้ป่วยโควิด-19 โดยยาตัวนี้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ รวมถึงหนองใน
ประกอบกับช่วงโควิด-19 คนหลีกเลี่ยงที่จะเข้าโรงพยาบาลหากไม่ป่วยหนักจริงๆ จึงทำให้คนที่ติดหนองในเลือกที่จะไม่เข้ารับการตรวจอย่างทันท่วงที พยายามรักษาด้วยตัวเอง ส่งผลให้อาการแย่ลง หรืออาจติดเชื้อหนองในแล้วแต่ไม่รู้ตัว
ทำให้แพร่เชื้อต่อไปเรื่อยๆ
ซูเปอร์หนองในถูกพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2561 หลังจากมีชายอังกฤษติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่งขณะเดินทางไปเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนจะเป็นประเทศไหนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษขอไม่เปิดเผย
ประมาณตัวเลขว่า หากไม่มีการป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี ซูเปอร์หนองในอาจจะฆ่าคนทั่วโลกปีละถึง 700,000 คน
สำหรับการป้องกันการติดเชื้อซูเปอร์หนองใน ทำได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
ในวงการกีฬา ถุงยางอนามัยกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทัวร์นาเมนต์กีฬาใหญ่ๆ อย่างโอลิมปิก เพราะนักกีฬาทั้งชายและหญิงจากหลากหลายประเทศซึ่งอยู่ในวัยกำลังฟิตพร้อมลุย
เมื่อมารวมตัวกันในหมู่บ้านนักกีฬา เกิดส่งสายตาถูกใจและพูดคุยกันอย่างถูกคอ ฮอร์โมนเพศหลั่งอย่างเต็มที่ ย่อมเกิดความรู้สึกอยากชวนกันไปทำกิจกรรมสันทนาการอย่างใกล้ชิดในที่เงียบๆ
ทางเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกจึงมีถุงยางอนามัยบริการฟรีในหมู่บ้านนักกีฬาไว้พร้อมและเพียงพอต่อความต้องการของนักกีฬา
แต่ในโตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่เลื่อนมาจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคมปีนี้ (ซึ่งหวังว่าจะไม่มีการเลื่อนการแข่งขันอีก) จะไม่มีการแจกถุงยางมากมายหลายแสนชิ้นเหมือนโอลิมปิกที่ผ่านๆ มา เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมอันเนื่องมาจากโควิด-19
โดยในโตเกียว โอลิมปิก 2020 นักกีฬาจะได้รับการขอร้องให้ออกจากหมู่บ้านนักกีฬาและออกจากประเทศญี่ปุ่นหลังแข่งขันเสร็จ 1 ถึง 2 วัน
ไม่ใช่อยู่จนกระทั่งวันสุดท้ายของการแข่งขันโอลิมปิก นอกจากนั้น ทุกๆ คืนจะไม่มีปาร์ตี้สังสรรค์ในหมู่บ้านนักกีฬาเหมือนทุกคราว
ก็เป็นที่น่าเสียดายของบรรดานักกีฬาโอลิมปิกที่ไม่ได้เป็นตัวเต็งชิงเหรียญรางวัล ซึ่งไปแข่งขันเพื่อประสบการณ์ชีวิต โดยหนึ่งในประสบการณ์นั้นก็คือการปาร์ตี้และ “มีอะไร” กับนักกีฬาจากทั่วโลกในหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในหมู่นักกีฬา
ในโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ มีการแจกจ่ายถุงยางให้กับนักกีฬาในหมู่บ้านนักกีฬาจำนวน 450,000 ชิ้น โดยเป็นถุงยางสำหรับผู้ชาย 350,000 ชิ้น และถุงยางสำหรับผู้หญิง 100,000 ชิ้น สารหล่อลื่นอีก 175,000 ชิ้น
โดยติดตั้งตู้กดถุงยางตามจุดต่างๆ ทั่วหมู่บ้านนักกีฬา เพื่อป้องกันไม่ให้นักกีฬานำโรคกลับบ้านเป็นของที่ระลึกจากการแข่งขันโอลิมปิก
ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้ผลิตถุงยางอนามัยของญี่ปุ่นของสองบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตถุงยางซึ่งมีความบางเฉียบที่สุดในโลก ได้แก่ ซากามิ (Sakami) และโอกาโมโตะ (Okamoto) ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้รับเลือกให้เป็นถุงยางที่ใช้ในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว
ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองบริษัทจะได้แสดงให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงคุณภาพถุงยางของประเทศญี่ปุ่น และก้าวขึ้นเป็นถุงยางยี่ห้อยอดนิยมในตลาดนานาชาติเพื่อแข่งขันกับดูเร็กซ์ (Durex) ของสหราชอาณาจักร, โทรจัน (Trojan) ของสหรัฐอเมริกา และแอนเซลล์ (Ansell) ของออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้ถุงยางของซากามิกำลังได้รับความนิยมมากในประเทศจีน
ฮิโรชิ ยามาชิตะ (Hiroshi Yamashita) ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสของบริษัทซากามิ โฆษณาถึงสรรพคุณของถุงยางยี่ห้อซากามิว่าแม้จะบางเฉียบ แต่เหนียว อึด ทนทานมาก
จากการทดสอบ ถุงยางบางเฉียบนี้สามารถทนทานการเสียดสี “เข้า-ออก” ได้ถึง 100,000 ครั้ง ซึ่งมากกว่าความสามารถโดยเฉลี่ยของผู้ชายที่อยู่ที่ 100-500 ครั้ง
นี่เป็นงานวิจัยของคณะผู้ศึกษาจาก Boston University ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science เมื่อปี 2018
ยางรถยนต์ มีกี่ประเภท ยางประหยัดน้ำมัน หรือยางสปอร์ต แตกต่างกันอย่างไร ???
-
9 ร้านกาแฟ วิวสวย แหล่งจิบกาแฟ แลขุนเขาและท้องทะเลที่ไม่ควรพลาด แนะนำร้านกาแฟ บรรยากาศดี ทั...
-
หาดูยาก! มาชมที่สุดของ 17 ชนเผ่าทั่วโลก ที่เร้นลับที่สุดเท่าที่เคยมีมา คุณเคยได้ยินชื่อ ชนเผ่าอินคา ชนเผ่ามายา ชนเผ่าแซมบ...