วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Lionel Richie & Diana Ross Endless Love 1982

Dizzy - Tommy Roe

เกิด: 9 พฤษภาคม 2485 (อายุ 78 ปี), แอตแลนตา, รัฐจอร์เจีย, อเมริกา คู่สมรส: Josette Banzet ประเภท: ร็อกแอนด์โรล, ป็อป, บับเบิ้ลกัม ป็อป ค่ายเพลง: Judd Records, ABC Records, Monument Records, MGM Records เครื่องดนตรี: Vocals, กีตาร์ ภาพยนตร์: Ragin' Cajun, Cruisin Love Songs: Vol. 2, Rock's First Teen Idols, Cruisin' Hits of the 60's

 





LADY - Lionel Richie & Kenny Roger



 

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Bee Gees - I've Gotta Get a Message To You live MTV Most Wanted 1993


 

The Good, the Bad and the Ugly - The Danish National Symphony Orchestra (Live)



 

Apache



 

The Last Leaf - The Cascades



 

Rhym Of The Rain - The Cascades



 

El Condor Pasa - 12 Girls



 

Crying in the rain - Brother Four



 

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

‘Omega Speedmaster’ กว่าจะเป็นนาฬิกาของนักบินอวกาศ


 


ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จะโฆษณาสินค้าอะไรนะครับ แค่อยากจะแสดงให้เห็นว่าแค่นาฬิกาเรือนเดียวยังต้องทดสอบกันจริงจังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นตัวจรวด ตัวยานอวกาศเขาจะต้องทดสอบกันจริงจังขนาดไหนครับ

เลยขอชวนทุกท่านคิดเล่นๆ ดูว่าถ้าเราจะส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ภายใน 7 ปี ตอนนี้เราควรจะเริ่มตรงไหนก่อนดีครับ ???

        ท่านประธานาธิบดีไบเดน เป็นคนชอบนาฬิกา และมีนาฬิกาที่ใส่ติดข้อมือเป็นประจำซึ่งอยู่เรือนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ใช่ Made in USA แต่ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่คนอเมริกันรับได้และผูกพัน นั่นก็คือ Omega รุ่น Speedmaster

  • Omega กับ สหรัฐอเมริกา

สาเหตุที่คนอเมริกันรู้จัก Omega อย่างเป็นทางการน่าจะเพราะว่า ในช่วงต้นทศวรรษ 60 เป็นต้นมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ได้คัดเลือกนาฬิกายี่ห้อนี้เป็นนาฬิกาประจำตัวของนักบินในโครงการสำรวจอวกาศทั้งหมดของ NASA และต่อมาในปี 1969 นาฬิกา Omega ก็ดังระเบิดพร้อมๆ กันกับความสำเร็จของ NASA ในภารกิจ Apollo 11 ที่สามารถนำนักบินอวกาศลงไปเหยียบพื้นผิวของดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรกและ Omega ก็เป็นนาฬิกาข้อมือที่นักบินอวกาศใส่ลงไปสร้างประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติครั้งนั้น

และ Omega รุ่นที่นักบินอวกาศใช้ก็คือรุ่น Speedmaster รุ่นเดียวกับที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ใส่ติดข้อมือนั่นเอง  จากความสำเร็จดังกล่าว Omega ก็เพิ่มสโลแกนประจำยี่ห้อและเพิ่มคำสลักลงบนนาฬิการุ่น Speedmaster ว่า “The first watch worn on the Moon” เป็นจุดขายจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเราจะเห็นว่าในโฆษณาของนาฬิกายี่ห้อนี้มักจะมีภาพนักบินอวกาศ หรือยานอวกาศของสหรัฐปรากฎอยู่ด้วยกันจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจคู่กับชาวอเมริกันไปแล้ว

  • บททดสอบสุดโหดก่อนท่องอวกาศ

การสรรหานาฬิกาสำหรับนักบินอวกาศนั้น NASA มีมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างดุดันเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะต้องเผชิญในระหว่างการเดินทางไปดวงจันทร์ ทั้งหมดมีด้วยกัน 11 ข้อ แบบดุดัน ซึ่งจะขออนุญาตสรุปพอให้ได้อรรถรสนะครับ ท่านใดที่สนใจแบบละเอียดรบกวนต้องไปอ่านในคู่มือของ NASA อีกทีนะ จริงๆ น่าสนใจแต่ต้องมีความรู้เรื่องมาตรฐานแรงกดอากาศและสูตรคำนวณต่างๆ แบบลึกจริงๆ เอาเป็นว่าผมขอสรุปพอสังเขปตามนี้ครับ

  1. ทดสอบในอุณหภูมิสูง :นาฬิกาจะต้องผ่านอุณหภูมิที่สูงระดับ 70 °C ติดต่อกันเป็นเวลา 48 ชั่วโมงจากนั้นจะเพิ่มอุณหภูมิเป็น 93 °C อีก 30 นาที ภายใต้แรงดัน 5.5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และความชื้นไม่เกิน 15(อุณหภูมิเฉลี่ยบ้านเรานี่ปกติจะประมาณ 18-38 องศา °C และที่สหรัฐฯ จะประมาณ -8 – 34 °C นะครับ)
  2. ทดสอบในอุณหภูมิต่ำ : นาฬิกาจะต้องผ่านอุณหภูมิ -18 °C เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  3. การทดสอบอุณหภูมิร่วมกับความกดและแรงดันอากาศ : นาฬิกาจะถูกพาไปในหอควบคุมความกดอากาศ คงสภาพในความกดอากาศสูงสุดที่ใกล้เคียงสภาพนอกชั้นบรรยากาศของโลก เพิ่มอุณหภูมิไปที่ 71 °C เป็นเวลา 45 นาทีก่อนที่จะกระชากอุณหภูมิลงมาที่ -18 °C เป็นเวลาอีก 45 นาที ทำกลับไปกลับมาแบบนี้ 15 รอบ
  4. ทดสอบในสภาพอุณหภูมิที่ปรวนแปร : นำนาฬิกาไปอยู่ในหออุณหภูมิที่ปรับให้สวิงไปมาระหว่าง 20 °C กับ 70 °C ในความชื้นและแรงดันอากาศตามมาตรฐาน NASA เป็นเวลา 240 ชั่วโมง
  5. ทดสอบบรรยากาศออกซิเจน : นาฬิกาต้องอยู่ในระดับออกซิเจน 100 ที่แรงกด 5.5 ปอนด์ต่อตารางนิ้วเป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยที่ทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาจะไม่เสื่อมสลาย ไม่ไหม้ไฟ ไม่เป็นสารพิษ ส่งกลิ่นเหม็น
  6. ทดสอบความทนแรงกระชาก : NASA จะจับนาฬิกาใส่ลงในเครื่องทดสอบแรง Shock ในระดับ 40 Gs และพาเคลื่อนไปทุกทิศทุกทางในทุกๆ 11 มิลลิวินาที

  1. ในวันที่ 1 มีนาคม 1965 การทดสอบทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ ‘Omega Speedmaster’ 

  2. ผ่านการทดสอบเพียงเจ้าเดียวแล้วได้เป็นนาฬิกาของนักบินอวกาศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในความเป็นจริงการทดสอบทั้งหมดไม่ได้ตั้งใจจะให้มีนาฬิกาแบบไหนที่จะผ่านออกมาในสภาพสวยหรู แต่เป็นการทดสอบว่าวัสดุและการประกอบของนาฬิกายี่ห้อไหนจะเสียหายน้อยที่สุดและยังคงเหลือสภาพใช้งานได้ในภารกิจท่องอวกาศ ตามรายงานของ NASA ระบุว่า Speedmaster สูญเสียความแม่นยำเล็กน้อยในห้วงสุญญากาศ และพรายน้ำมีรอยไหม้เมื่อเจอความร้อนสูง แต่ยังอยู่ในสภาพที่ไม่เกิดความเสียหาย
  3. ทดสอบความทนทานต่ออัตราเร่ง : อันนี้นาฬิกาจะถูกกระชากขึ้นตามแนวดิ่งจากอัตราเร่ง 1 ถึง 7.25 ภายในเวลา 333 วินาที
  4. ทดสอบการบีบอัดในระบบสูญญากาศ : นาฬิกาจะต้องใช้เวลา 90 นาทีในอุณหภูมิ 71 และอีก 30 นาทีในอุณหภูมิ 93 พร้อมกำลังอัดเสมือนในอวกาศ
  5. การอดทนต่อแรงดัน : นาฬิกาจะต้องเจอแรงอัดที่ 23.5 ปอนด์ต่อหนึ่งตารางนิ้ว เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง
  6. ทดสอบแรงสั่นสะเทือน : จับนาฬิกาเข้าระบบเขย่าตั้งแต่แรงสั่นสะเทือน 5- 2000 cps สลับไปมาทุกๆ 5 นาที เป็นเวลา 30 นาที และทำต่อเนื่องกัน 3 รอบ ในค่าแรง ไม่น้อยกว่า 8.8
  7. ทดสอบความคงทนต่อเสียง : ทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้วนะครับว่าคลื่นเสียงมีอานุภาพที่ร้ายแรง ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจ NASA จะต้องนำนาฬิกาไปทดสอบกับเสียงในระดับ 130 เดซิเบล ในคลื่นความถี่ระหว่าง 40 – 10,000 Hz เป็นเวลา 30 นาที

Bridge over troubled water- Simon & Garfunkel


   "สะพานนี้...สร้างจากรักทั้งใจ ที่ฉันยอมมอบให้เธอ....."
แต่งโดย Paul Simon และ Art Garfunkel ศิลปิน Duo ชื่อดังแห่งยุค 60 เป็นชื่อเพลงและชื่ออัลบั้มที่ 5 ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้ายในนาม Simon & Garfunkel เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากๆ ขึ้นถึงอันดับ 1 US.Billboard chart และยอดขาย 25 ล้านแผ่นทั่วโลก ในปี 1970
Paul Simon ได้แต่งเพลงนี้จากการได้อ่านพระวรสาส์น(Bible)ที่เขาแอบหยิบติดมือมาจากโรงแรมที่เขาไปพัก เมื่อได้เดินทางไปแสดงที่เมืองหนึ่ง ในปี 1969 และก็ใช้เวลาระห่วางที่อยู่บนเครื่องบินนั้นอ่านเพื่อฆ่าเวลา และหลังจากนั้นอีกไม่นานเขาก็ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา ด้วยทำนองที่เรียบง่าย ใช้ภาษาอย่างง่ายๆ และเป็นเพลงแรกที่ใช้ Piano ประกอบการร้องแทน Guitar
เนื้อหาโดยรวมของเพลงนี้คือการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ที่คนคนหนึ่งจะยอมทอดตัวลงเพื่อเป็นสะพานให้คนอื่นเหยียบเดินข้ามกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากเพื่อให้ข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้ เป็นการให้กำลังใจว่าในที่สุดเรือลำน้อยนี้ก็จะสามารถแล่นผ่านพ้นพายุที่พัดกระหน่ำมาอย่างบ้าคลั่ง ไปพบกับแสงตะวันอันเรืองรองที่รออยู่ได้ในไม่ช้า

When you’re weary, feeling small,
When tears are in your eyes, I will dry them all;
I’m on your side. When times get rough
And friends just can’t be found,
เมื่อยามเธอเหนื่อยล้า ทุกข์ถาโถมกระหน่ำ
ยามเมื่อน้ำตาไหลหลั่งริน ฉันจะเป็นคนซับน้ำตาให้
ฉันอยู่เคียงข้างเธอ เมื่อเธอรู้สึกเดือดร้อนใจ
และมองหาเพื่อนรอบกายก็ไม่พบ
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
เมื่อยามเจออุปสรรคปัญหา
ฉันจะเป็นดั่งสะพานทอดกายให้เธอข้ามพ้นมันไป…
When you’re down and out,
When you’re on the street,
When evening falls so hard
I will comfort you.
I’ll take your part.
When darkness comes
And pains is all around,
เมื่อรู้สึกเหนื่อล้าและสิ้นหวัง
เมื่อรู้สึกเหมือนเดียวดายตามลำพัง
เหมือนจบสิ้นวันด้วยความทุกข์ระทม
ฉันจะช่วยปลอบประโลม
เป็นส่วนหนึ่งเคียงข้าง
เมื่อยามความมืดแห่งราตรีย่างกราย
มาพร้อมความทุกข์ห้อมล้อมถาโถม
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
เมื่อยามเจออุปสรรคปัญหา
ฉันจะเป็นดั่งสะพานทอดกายให้เธอข้ามพ้นมันไป…
Sail on silvergirl,
Sail on by.
Your time has come to shine.
All your dreams are on their way.
See how they shine.
If you need a friend
I’m sailing right behind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.
ล่องลอยไปเถิดยอดหญิง
ออกเดินทางต่อไป
ถึงเวลาของเธอที่ต้องออกไปเจิดสรัส
ฝันของเธอดำเนินไปตามทางของมัน
และส่องแสงสว่างนำทาง
หากเธอต้องการใครสักคน
ฉันติดตามมาใกล้ๆ ให้กำลังใจอยู่ข้างหลัง
เมื่อยามเจออุปสรรคปัญหา
ฉันจะเป็นดั่งสะพานทอดกายให้เธอข้ามพ้นมันไป

Silvergirl คือใคร? เกี่ยวกับยาเสพติดหรือเปล่า?
Paul Simon ผู้แต่งตอบว่า เขาหมายถึง สีของผมขาว เมื่อคนเราเริ่มมีอายุต่างหาก และเพลงนี้ใช้สื่อถึงความรักได้กับทุกวัยครับ...

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อุ๊ยคำ - จรัล มโนเพ็ชร



รางวัลแด่คนช่างฝัน

ปลายปี พ.ศ.2527 อ้ายจรัลแต่งเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ขึ้นต้นด้วยคำว่า “อย่ากลับคืนคำเมื่อเธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป เมื่อเธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร เดินทางไกล อย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น” อ้ายไม่ได้แต่งเพลงนี้เพื่อคนหนุ่มสาวทั่วๆ ไป แต่อ้ายแต่งเพื่อพูดจากับหนุ่มสาวที่หนีเข้าป่าตั้งแต่ พ.ศ.2519-2520 และทยอยกันออกมาจากป่าในช่วงปี พ.ศ.2526-2527 พร้อมกับปลุกเร้าให้กำลังใจเพื่อที่จะสู้ต่อไป

 


ถ้าอ้ายจรัลยังอยู่ ปีนี้ อ้ายก็จะมีอายุครบ 70 ปี.. สายของวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2544 ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วสังคมไทย จรัล มโนเพ็ชร ได้จากโลกไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืด

    จรัลเป็นศิลปินชาวเชียงใหม่ที่ร้องเพลงโฟล์กซองคำเมืองจนโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก ทั้งมีผลงานละครและเล่นหนังหลายเรื่อง เป็นศิลปินที่มากความสามารถ

                            เขาจากไปในวัยเพียง 50 ปี

   จรัลเป็นลูกคนที่ 2 เขาจบจากโรงเรียนเมตตาศึกษา และเข้าเรียนวิชาบัญชีที่วิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ เป็นคนเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 แทบทุกครั้ง และได้งานทำไม่นานหลังเรียนจบ 
   แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวและสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมด้านดนตรีและศิลปะ พ่อเป็นนักดนตรีฝีมือดี เป็นคนเก่งด้านภาษาทั้งกาพย์กลอนและการแต่งเพลงร้องเพลง เป็นช่างศิลปะยอดฝีมือ จึงเล่นดนตรีและสอนดนตรีให้ลูกๆ ตั้งแต่เล็ก     จรัลได้รับมาเต็มๆ 

            ปลายปี พ.ศ.2527 อ้ายจรัลแต่งเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ขึ้นต้นด้วยคำว่า “อย่ากลับคืนคำเมื่อเธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป เมื่อเธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร เดินทางไกล อย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น” 
      อ้ายไม่ได้แต่งเพลงนี้เพื่อคนหนุ่มสาวทั่วๆ ไป แต่อ้ายแต่งเพื่อพูดจากับหนุ่มสาวที่หนีเข้าป่าตั้งแต่ พ.ศ.2519-2520 และทยอยกันออกมาจากป่าในช่วงปี พ.ศ.2526-2527 พร้อมกับปลุกเร้าให้กำลังใจเพื่อที่จะสู้ต่อไป

  <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/uBZLSHNhqzA"?autoplay=1 frameborder="0" allow="accelerometer;  ;autoplay=1; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture" allowfullscreen></iframe>

          

ซูเปอร์หนองใน ที่กำลังมีคนป่วยเพิ่มขึ้น เพราะคนกินยาปฏิชีวนะ ?


            โควิด-19 กับ ซูเปอร์หนองใน

     สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ก่อให้เกิดการระบาดของอีกโรคที่มีความรุนแรงเช่นกัน นั่นคือโรคซูเปอร์โกโนเรีย (Super Gonorrhea) หรือซูเปอร์หนองใน ซึ่งเป็นหนองในชนิดรุนแรง อันตรายและดื้อยามากกว่าเดิม แข็งแรงมากราวกับซูเปอร์แมน

    ซูเปอร์หนองในที่กำลังมีคนป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 นี้ดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษา

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนว่า สาเหตุที่มีคนเป็นซูเปอร์หนองในเพิ่มมากขึ้นในช่วงโควิด-19 เพราะคนกินยาปฏิชีวนะกันเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ทำให้แบคทีเรียหนองในดื้อยา และกลายเป็นซูเปอร์หนองใน

ยาปฏิชีวนะ อะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ได้รับการนำมาใช้ในผู้ป่วยโควิด-19 โดยยาตัวนี้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ รวมถึงหนองใน

ประกอบกับช่วงโควิด-19 คนหลีกเลี่ยงที่จะเข้าโรงพยาบาลหากไม่ป่วยหนักจริงๆ จึงทำให้คนที่ติดหนองในเลือกที่จะไม่เข้ารับการตรวจอย่างทันท่วงที พยายามรักษาด้วยตัวเอง ส่งผลให้อาการแย่ลง หรืออาจติดเชื้อหนองในแล้วแต่ไม่รู้ตัว

ทำให้แพร่เชื้อต่อไปเรื่อยๆ

       ซูเปอร์หนองในถูกพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2561 หลังจากมีชายอังกฤษติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่งขณะเดินทางไปเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนจะเป็นประเทศไหนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษขอไม่เปิดเผย

ประมาณตัวเลขว่า หากไม่มีการป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี ซูเปอร์หนองในอาจจะฆ่าคนทั่วโลกปีละถึง 700,000 คน

สำหรับการป้องกันการติดเชื้อซูเปอร์หนองใน ทำได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์

ในวงการกีฬา ถุงยางอนามัยกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทัวร์นาเมนต์กีฬาใหญ่ๆ อย่างโอลิมปิก เพราะนักกีฬาทั้งชายและหญิงจากหลากหลายประเทศซึ่งอยู่ในวัยกำลังฟิตพร้อมลุย

เมื่อมารวมตัวกันในหมู่บ้านนักกีฬา เกิดส่งสายตาถูกใจและพูดคุยกันอย่างถูกคอ ฮอร์โมนเพศหลั่งอย่างเต็มที่ ย่อมเกิดความรู้สึกอยากชวนกันไปทำกิจกรรมสันทนาการอย่างใกล้ชิดในที่เงียบๆ

ทางเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกจึงมีถุงยางอนามัยบริการฟรีในหมู่บ้านนักกีฬาไว้พร้อมและเพียงพอต่อความต้องการของนักกีฬา

แต่ในโตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่เลื่อนมาจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคมปีนี้ (ซึ่งหวังว่าจะไม่มีการเลื่อนการแข่งขันอีก) จะไม่มีการแจกถุงยางมากมายหลายแสนชิ้นเหมือนโอลิมปิกที่ผ่านๆ มา เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมอันเนื่องมาจากโควิด-19

โดยในโตเกียว โอลิมปิก 2020 นักกีฬาจะได้รับการขอร้องให้ออกจากหมู่บ้านนักกีฬาและออกจากประเทศญี่ปุ่นหลังแข่งขันเสร็จ 1 ถึง 2 วัน

ไม่ใช่อยู่จนกระทั่งวันสุดท้ายของการแข่งขันโอลิมปิก นอกจากนั้น ทุกๆ คืนจะไม่มีปาร์ตี้สังสรรค์ในหมู่บ้านนักกีฬาเหมือนทุกคราว

ก็เป็นที่น่าเสียดายของบรรดานักกีฬาโอลิมปิกที่ไม่ได้เป็นตัวเต็งชิงเหรียญรางวัล ซึ่งไปแข่งขันเพื่อประสบการณ์ชีวิต โดยหนึ่งในประสบการณ์นั้นก็คือการปาร์ตี้และ “มีอะไร” กับนักกีฬาจากทั่วโลกในหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในหมู่นักกีฬา

ในโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ มีการแจกจ่ายถุงยางให้กับนักกีฬาในหมู่บ้านนักกีฬาจำนวน 450,000 ชิ้น โดยเป็นถุงยางสำหรับผู้ชาย 350,000 ชิ้น และถุงยางสำหรับผู้หญิง 100,000 ชิ้น สารหล่อลื่นอีก 175,000 ชิ้น

โดยติดตั้งตู้กดถุงยางตามจุดต่างๆ ทั่วหมู่บ้านนักกีฬา เพื่อป้องกันไม่ให้นักกีฬานำโรคกลับบ้านเป็นของที่ระลึกจากการแข่งขันโอลิมปิก

ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้ผลิตถุงยางอนามัยของญี่ปุ่นของสองบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตถุงยางซึ่งมีความบางเฉียบที่สุดในโลก ได้แก่ ซากามิ (Sakami) และโอกาโมโตะ (Okamoto) ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้รับเลือกให้เป็นถุงยางที่ใช้ในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว

ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองบริษัทจะได้แสดงให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงคุณภาพถุงยางของประเทศญี่ปุ่น และก้าวขึ้นเป็นถุงยางยี่ห้อยอดนิยมในตลาดนานาชาติเพื่อแข่งขันกับดูเร็กซ์ (Durex) ของสหราชอาณาจักร, โทรจัน (Trojan) ของสหรัฐอเมริกา และแอนเซลล์ (Ansell) ของออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้ถุงยางของซากามิกำลังได้รับความนิยมมากในประเทศจีน

ฮิโรชิ ยามาชิตะ (Hiroshi Yamashita) ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสของบริษัทซากามิ โฆษณาถึงสรรพคุณของถุงยางยี่ห้อซากามิว่าแม้จะบางเฉียบ แต่เหนียว อึด ทนทานมาก

จากการทดสอบ ถุงยางบางเฉียบนี้สามารถทนทานการเสียดสี “เข้า-ออก” ได้ถึง 100,000 ครั้ง ซึ่งมากกว่าความสามารถโดยเฉลี่ยของผู้ชายที่อยู่ที่ 100-500 ครั้ง

นี่เป็นงานวิจัยของคณะผู้ศึกษาจาก Boston University ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science เมื่อปี 2018

ยางรถยนต์ มีกี่ประเภท ยางประหยัดน้ำมัน หรือยางสปอร์ต แตกต่างกันอย่างไร ???

ยางรถยนต์ คือ ชิ้นส่วนของรถยนต์ที่จะต้องสัมผัสกับผิวถนนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน หรือสไตล์การขับขี่ของเราเองด้วย เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
ในที่นี้จะกล่าวถึงการแบ่งประเภทของยางรถยนต์ตามลักษณะการขับขี่เป็นหลัก มาดูกันว่าสไตล์การขับจะแบ่งประเภทของยางได้เป็นกี่แบบ
1. ยางนุ่มเงียบ 

        เป็นยางรถยนต์แบบที่ใช้กันมากที่สุด มาตรฐานอยู่ในระดับกลาง ๆ ไปจนถึงดี ผิวสัมผัสหน้ายางที่มีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี มีการเสริมเนื้อยางพิเศษบริเวณแก้มยางช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือนทำให้รู้สึกถึงความนุ่มสบาย มีความเกาะถนนให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ เน้นขับกับสภาพถนนในเมืองมากกว่า 

        รถยนต์ที่เหมาะกับยางประเภทนุ่มเงียบ ได้แก่ Jaguar XJ, Lexus ES, Benz E Class และ A Class, BMW Series 3 และ Series 5, Audi A3 และ A4, Toyota Camry, Toyota Altis, Honda Accord, Honda City เป็นต้น 

         ยางนุ่มเงียบยี่ห้อต่าง ๆ รุ่นยาง Bridgestone Potenza RE003, Turanza T005A, Ecopia EP150, Ecopia EP300 Continential ComfortContact CC6, UltraContact UC6 Deestone Premium Tourer RA01, Carreras R702 Dunlop Direzza DZ102, Enasave EC300, SP Sport LM704-MAXX 050+ Goodyear Assurance Duraplus, Assurance Triplemax 2, Eagle NCT 5, Eagle F1 Directional 5 Maxxis I-Pro, ME3 Michelin Pilot Sport 3, Pilot Sport4, Primacy 4 Toyo Tires Proxes CF2-C1S Yokohama Advan Neova AD08R-Fleva V701-DB V552, BlueEarth-A AE50 

          2. ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง เป็นยางที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นจากยางประเภทนุ่มเงียบเพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ต พร้อมกับเสริมจุดเด่นเรื่องความสวยงามของดอกยางที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละยี่ห้อ  
          คุณสมบัติของยางประเภทนี้คือ การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม การควบคุมและการตอบสนองกับพวงมาลัยที่แม่นยำ เหมาะสำหรับการขับด้วยความเร็วและพื้นถนนที่เรียบ จึงอาจจะทำให้รับแรงกระแทกได้ไม่มากเท่าไหร่เมื่อขับบนสภาพถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ 
        รถยนต์ที่ใช้ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง อย่างเช่น Subaru WRX, Mitsubishi Lancer Evo, Honda Civic Type R, Mazda 3, Toyota Yaris, Honda Jazz, Benz AMG, Aston Martin DB9, Ferrari F430, BMW M2 Coupe, M3 Sedan และ M4 Coupe เป็นต้น
 
       ยางสปอร์ตสมรรถนะสูงยี่ห้อต่าง ๆ ยี่ห้อ รุ่นยาง Pirelli P Zero Corsa System Continential ContiSportContact Dunlop Sport Maxx RT Goodyear Eagle F1 Bridgestone Potenza S001, Soo7A, Adrenalin RE003 Yokohama Advan Sport V105
       3. ยางประหยัดน้ำมัน 

        มาตรฐานใหม่ของการใช้รถที่เน้นในเรื่องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยางประหยัดน้ำมันจึงเข้ามาเป็นอีกส่วนสำคัญของรถยนต์ Eco Car เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า และยังปลอดภัยมากขึ้นด้วยประสิทธิภาพของยางที่ยึดเกาะถนนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น 

        รถยนต์ที่ใช้ยางประหยัดน้ำมัน ได้แก่ Toyota และ Honda รุ่นต่าง ๆ, Nissan March และสำหรับรถประเภท SUV, MPV และ PPV ก็ใช้ยางประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Toyota C-HR, Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, ISUZU MU X, Honda CR-V, Mazda CX-5, MG GS หรือแม้แต่รถกระบะอย่าง Toyota Revo, Isuzu D-Max ก็ใช้ยางประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน 

        ยางประหยัดน้ำมันยี่ห้อต่าง ๆ ยี่ห้อ รุ่นยาง Bridgestone Ecopia EP300 Dunlop Enasave EC300, Enasave EC300+, SP Touring T1, SP Touring R1 Otani EK1000 Goodyear Assurance Triple Max Firestone TZ700 Apollo Amazer 3G Maxx Pirelli Scorpion Verde 

          4. ยางออฟโรด 

        เป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับสไตล์การขับขี่แบบสมบุกสมบันบุกป่าฝ่าดงโดยเฉพาะ ประเภทรถยนต์ที่ใช้ยางออฟโรดมีตั้งแต่รถกระบะทั่วไปจนถึง SUV และ CUV เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ ยางประเภทนี้จะเป็นยางที่แข็งแกร่ง ขับได้ทุกพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นดินโคลน พื้นทราย ลุยน้ำ ฝนตก แดดออก ทางลาดชัน พื้นผิวขรุขระ มีแรงเกาะถนนเป็นเยี่ยมตอบสนองกับพวงมาลัยได้ดี 
      รถยนต์ที่ใช้ยางออฟโรด ได้แก่ รถกระบะต่าง ๆ เช่น Mitsubishi Triton, Chevrolet Colorado, Nissan Navara, Mazda BT-50 และรถยนต์ที่เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบัน อย่างเช่น Ford Ranger, Jeep Cherokee, Isuzu Rodeo เป็นต้น  

     ยางออฟโรดยี่ห้อต่าง ๆ ยี่ห้อ รุ่นยาง Hankook Dynapro AT-M (RF10) Toyo Tires Open Country AT II Yokohama Geolander AT-S G012, Geolander AT G015 Michelin LTX Force Dunlop Grandtrek AT3, Grandtrek AT22 Maxxis AT980, AT700 Bridgestone Dueler AT 697 

          5. ยาง RunFlat 

       เทคโนโลยีล่าสุดของวงการยางรถยนต์ที่ช่วยในเรื่องของการคงสภาพของยางให้รถวิ่งต่อได้เมื่อประสบอุบัติเหตุ ที่ทำให้เกิดการรั่วซึมของยาง โดยในสภาวะปกตินั้นประสิทธิภาพการขับถือว่าดีเยี่ยมทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง และสมรรถนะที่จัดว่าอยู่ในระดับ Top ของยางทุกประเภทถ้าไม่นับออฟโรด แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงมาก 

       สำหรับยาง RunFlat ยังไม่มีรถยี่ห้อใดใช้มากนักนอกจาก BMW อย่างเช่นในรุ่น 520d, 523i, 525i, 318 และ 320 เป็นต้น 

       ยาง RunFlat ยี่ห้อต่าง ๆ ยี่ห้อ รุ่นยาง Pirelli P Zero Runflat, Cinturato P7 Runflat Michelin Primacy 3ZP Runflat Bridgestone Potenza S001 RFT Continential ContiSportContact 5 Run-flat, ContiSportContact 3 Run-flat, UltraContact UC6 SUV Run-flat GITI GitiControl 288 RunFlat Goodyear Eagle F1 Asymmetric 2 ROF Bridgestone Dueler AT 697 Yokohama Advan Sport V103S 

      จะเห็นว่ายางรถยนต์ที่อยู่ในตลาดมากที่สุดคือยางประเภทนุ่มเงียบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยางนุ่มเงียบถือเป็นยางโรงงานที่ติดมากับรถยนต์ป้ายแดงอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งคือความต้องการของผู้ขับขี่เองเมื่อต้องการเปลี่ยนยาง เพราะเป็นยางที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด การคำนึงถึงสไตล์การขับขี่รถยนต์ของเราเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันในการเลือกยางที่เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา